กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://cmruir.cmru.ac.th/handle/123456789/780
Title: | การพัฒนารูปแบบและการบริหารจัดการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมชุมชน โดยองค์กรชุมชน ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ |
Authors: | อุดาการ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์เยี่ยมลักษณ์ คณะ |
Keywords: | การพัฒนารูปแบบและการบริหารจัดการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมชุมชน |
Issue Date: | 2549 |
Publisher: | Chang Mai Rajabhat University |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาบริบทชุมชนและศักยภาพชุมชนด้านศิลปวัฒนธรรมของตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ (2) ศึกษาความต้องการในการพัฒนาด้านศิลปวัฒนธรรมตำบลบ้านแหวน (3) ศึกษาแนวทางในการพัฒนารูปแบบของศูนย์ศิลปวัฒนธรรมโดยองค์กรชุมชนตำบลบ้านแหวน และ (4) ศึกษาผลของการพัฒนารูปแบบของศูนย์ศิลปวัฒนธรรมโดยองค์กรชุมชนตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยประยุกต์ใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเป็นวิธีการวิจัย การดำเนินการใช้การจัดเวทีประชาคมการสนทนากลุ่ม สัมภาษณ์เชิงลึก การศึกษาดูงาน สังเกตและจดบันทึก เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วยกรอบคำถามแบบเปิดในการสัมภาษณ์ระดับลึก ประเด็นการสนทนากลุ่มเป้าหมาย แบบสอบถามประวัติบุคคลที่เป็นครูภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและการตรวจสอบข้อมูลสามเส้า ผลการวิจัยพบว่า ตำบลบ้านแหวนมีสภาพชุมชนแบบกึ่งสังคมเมืองกับสังคมชนบท เป็นสังคมแบบเปิด การดำรงชีวิตของคนในชุมชนเรียบง่ายโครงสร้างทางสังคมเน้นความสัมพันธ์แบบเครือญาติและให้ความสำคัญกับการนับถือความเป็นอาวุโสของคน ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่ปลอดผู้ไม่รู้หนังสือ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และได้รับการบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีการจัดการทุนในชุมชน ได้แก่ แหล่งน้ำ ดิน และกลุ่มองค์กรในชุมชนอยู่ในระดับดี เป็นผลทำให้เกิดพลังทางบวกขึ้นในชุมชน ปัญหาที่สำคัญของชุมชนคือ รายได้ต่อครอบครัวไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ปัญหาด้านการดูแลเด็กและเยาวชนและการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมในชุมชนในด้านศิลปวัฒนธรรมชุมชนบ้านแหวนเป็นชุมชนหนึ่งของอำเภอหางดงที่มีศักยภาพด้านศิลปวัฒนธรรมในระดับสูง ลักษณะของงานศิลปวัฒนธรรมของชุมชนแห่งนี้มีความหลากหลายและยังคงสภาพการดำรงอยู่ของศิลปวัฒนธรรมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีกลุ่มองค์กรผู้นำของชุมชนให้ความสำคัญและแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในอนุรักษ์งานศิลปวัฒนธรรมนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานในชุมชนให้การสนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์ ได้แก่ องศ์การบริหารส่วนตำบลและสภาวัฒนธรรมระดับตำบลและระดับอำเภอ เป็นต้น แต่ยังขาดการทำงานด้านการอนุรักษ์ในเชิงรุก ขาดการวางระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และยังไม่มีการบูรณาการงานศิลปวัฒนธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันตลอดทั้งการนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปใช้ในการการจัดการเรียนการสอนให้แก่เยาวชนในชุมชนอย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตามชุมชนบ้านแหวนมีโอกาสที่จะเผยแพร่งานศิลปวัฒนธรรมของชุมชน เนื่องด้วยมีพื้นที่ติดต่อกับหมู่บ้านถวายซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังนั้นโอกาสในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของชุมชนในอนาคตก็น่าจะมีเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศักยภาพของศิลปวัฒนธรรมของชุมชนบ้านแหวนยังคงดำรงอยู่มี 3 ประการคือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน การพึ่งตนเองของชุมชน และกระบวนการสืบทอดระบบความคิดและความเชื่อในชุมชนมีความเข้มแข็งมาก จึงทำให้ชุมชนบ้านแหวนมีความต้องการที่จะพัฒนาศูนย์ศิลปวัฒนธรรมประจำตำบล เพื่ออนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของชุมชน ผลของการพัฒนาพบว่า ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมประจำตำบลบ้านแหวน มีรูปแบบเป็นศูนย์ข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมชุมชนบ้านแหวนที่พัฒนาขึ้นโดยองศ์กรชุมชนซึ่งมีความบริหารจัดการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมในระยะเริ่มแรกดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหวนและกำหนดไว้ว่าในอนาคตจะดำเนินการโดยองค์กรชุมชนเต็มรูปแบบ ข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมที่รวบรวมไว้ประกอบด้วยงาน 4 ด้าน ได้แก่ งานด้านศิลปะ มุ่งเน้นเฉพาะงานด้านหัตถกรรม ได้แก่ การทำโคมไฟ การทำต้องลาย การปั้นพระ การปั้นสิงห์ งานด้านประเพณี มุ่งเน้นประเพณีที่มีเฉพาะในชุมชนบ้านแหวน ได้แก่ ประเพณี กิ๋นอ้อพะญา งานด้านวัฒนธรรม มุ่งเน้นวัฒนธรรมด้านอาหาร ได้แก่ การทำแหนมการทำไส้กรอก และการแสดงการ ได้แก่ การเล่นเครื่องดนตรี และด้านบุคลากรเป็นภูมิปัญญาของชุมชนด้านศิลปวัฒนธรรม ข้อมูลทั้ง 4 ด้าน ได้จัดรวบรวมไว้ในรูปวิดิทัศน์ แผ่นพับ เอกสารและเว็บไซด์ โดยมีการจัดนิทรรศการแสดงตัวอย่างงานหัตถกรรมที่โดเด่นของชุมชน ผลที่ได้รับจากการวิจัยครั้งนี้ เป็นพลังสำคัญที่ช่วยจุดประกายให้ชุมชนมีกำลังใจและมองเห็นแนวทางในการส่งเสริมงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชุมชน รวมทั้งเกิดการเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมด้านอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมทั้งด้านการวางแผน การปฏิบัติการและการประเมินผลแบบมีส่วนร่วม |
URI: | http://cmruir.cmru.ac.th/handle/123456789/780 |
Appears in Collections: | Research Report |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Cover.pdf | Cover (ปก) | 752.79 kB | Adobe PDF | View/Open |
Abstract.pdf | Abstract (บทคัคย่อ) | 435.44 kB | Adobe PDF | View/Open |
Content.pdf | Content(สารบัญ) | 378.21 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter1.pdf | Chapter-1 (บทที่1) | 9.85 MB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter2.pdf | Chapter-2 (บทที่2) | 759.17 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter3.pdf | Chapter-3 (บทที่3) | 477.33 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter4.pdf | Chapter-4 (บทที่4) | 1.42 MB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter5.pdf | Chapter-5 (บทที่5) | 594.73 kB | Adobe PDF | View/Open |
Bibliography.pdf | Bibliography (บรรณานุกรม) | 413.82 kB | Adobe PDF | View/Open |
Appendix.pdf | Appendix(ภาคผนวก) | 7.87 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.